เมนู

กุสลากุสลานัง มหันตามหันตภาวปัญหา ที่ 9


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามต่อไปว่า ภนฺเต
นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ทายกา อันว่าทายกทั้งหลายกระทำทานอุทิศผลทานให้แก่
บุรพเปรต บุรพเปรตก็ได้ผล ถ้าบุคคลกระทำอกุศลอันหยาบช้า คือฆ่ามนุษย์กระทำโลหิตุปบาท
อรหันตฆาต เป็นต้น เป็นอกุศลอันทารุณร้ายกาจหยาบช้า จะพึงอุทิศผลอกุศลนั้นให้ญาติ
อันเป็นเปรต เปรตนั้นจะได้ผลอกุศลนั้นหรือจะไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนจึงเถรวาจาว่า น หิ มหาราช ไม่ได้ ขอถวายพระพรบพิตรพระราช-
สมภาร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระ
นาคเสนผู้ปรีชา ส่วนว่าทายกกระทำทานการกุศลสิอุทิศแผ่ลงไปได้ ฝ่ายว่ากระทำอกุศลแผ่ผล
ไปไม่ได้ เหตุผลเป็นประการใด โยมสงสัยนักหนา
พระนาคเสนผู้ปรีชาจึงมีเถรวาจาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร
ความประการนี้บพิตรถามดุจถามว่ารสทั้งปวงเป็นไรไม่เหมือนกัน โลกทั้งปวงนั้นจะให้อาตมา
กระทำให้เป็นกิจอันเดียววิสัชนาให้เหมือนกันไม่ได้ เหตุอันอื่นมีอยู่บพิตรไม่ถาม มาถามประการ
นี้ อย่าได้ถามเลย เหมือนหนึ่งถามว่า ฝักข้าวโพดเป็นไรจึงตั้ง ลูกฟักเขียวฟังทองเป็นไรจึง
ห้อยย้อยลงมา น้ำในแม่น้ำคงคาเป็นไฉนไม่ไหลทวนขึ้นไปเบื้องบนเล่า มนุษย์กับนกเป็นไปจึง
สองเท้า เนื้อเป็นไรจึงสี่เท้า ไม่รู้ที่จะวิสัชนาได้ ขอถวายพระพร
พระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีจึงมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระ
นาคเสนผู้ปรีชา ใช่ว่าโยมจะแกล้งถามพระผู้เป็นเจ้าให้จนหามิได้ โยมถามทั้งนี้ด้วยเหตุว่ามนุษย์
ทั้งหลาย วิจกฺขุกา ปราศจากปัญญาจักขุมีมากในโลกนี้ จะถามเช่นโยมถามฉะนี้ จะหามีผู้แก้ไข
ไม่ โยมจึงถามให้ผู้เป็นเจ้าวิสัชนาให้เป็นผลแก่ฝูงชน อันจะเกิดมาในอนาคตกาลเบื้องหน้า
เอวาหํ ปุจฺฉามิ โยมจึงถามพระผู้เป็นเจ้าฉะนี้อย่างนี้
พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ
อาตมามิอาจจะแจกอกุศลให้เหมือนกุศลได้โดยอนุมานปัญญา ดุจหนึ่งว่ามนุษย์ทั้งหลายอัน
กระทำอุทกังให้ไหลไปด้วยกาลักน้ำ และจะให้เว้นเสียจากกาลักน้ำ จะให้ยกเอาภูเขาอันเป็น
ช่องมากระทำให้น้ำไหลไปสู่ที่ไกลจะได้หรือ บพิตร
พระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสว่า น หิ ภนฺเต ไม่ได้นะ พระผู้เป็นเจ้า